ในการที่จะใช้ประโยชน์สูงสุดจากอินเทอร์เน็ตนั้น บริษัทหรือองค์กรต่างๆ จำเป็นที่จะต้องเตรียมความพร้อมในการ ปรับเปลี่ยนไม่เฉพาะแต่กระบวนการเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงวัฒนธรรมขององค์กรอีกด้วย
การนำอินเทอร์เน็ตมาเป็นเครื่องมือในการทำธุรกิจนั้น มีเรื่องที่จะต้องคำนึงถึง มากไปกว่าการเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมเท่านั้น องค์กรที่มีแผนในการใช้อินเทอร์เน็ตมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และสร้างความได้เปรียบในทางธุรกิจ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเตรียมความพร้อมในการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร มาเป็นวัฒนธรรมด้านอินเทอร์เน็ต ที่จะวางรากฐานระบบอินเทอร์เน็ตไว้ในใจกลางของการดำเนินธุรกิจ และสนับสนุนให้มีการใช้งานบนเครือข่ายด้านเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการทางธุรกิจทั้งการสื่อสารภายใน และภายนอกองค์กร ตลอดจนการติดต่อสื่อสารกับ ลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจ
ทั้งนี้การใช้งานของอินเทอร์เน็ตนั้น มีสิ่งที่จะต้องพิจารณามากไปกว่าแค่เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเท่านั้น จากความสำเร็จของบริษัทที่ใช้อินเทอร์เน็ตมาตั้งแต่ต้น และบริษัทที่ดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลานาน ที่ได้มีการนำเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตมาใช้งาน ต่างก็ได้พบกับความสำเร็จ ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยการปฏิบัติตามแนวทางในการทำธุรกิจ ในยุคเศรษฐกิจแบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งมีค่ามาก สำหรับการดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบันที่ความเปลี่ยนแปลง ของตลาดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบริษัท หรือองค์กรที่กำลังดำเนินการ ในการปรับเปลี่ยนระบบการทำงานภายในองค์กร เพื่อก้าวไปสู่การทำธุรกิจบนอินเทอร์เน็ตแบบเต็มรูปแบบ
นอกเหนือไปจากการใช้งานเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต และระบบโครงสร้างด้านระบบเครือข่ายแล้วนั้น บริษัทหรือองค์กรที่ได้เริ่มปรับเปลี่ยนมาใช้วัฒนธรรมด้านอินเทอร์เน็ตนั้น ต่างได้ยึดในหลักการ 6 ประการ ที่ทำให้พวกเขาแตกต่างจากองค์กรที่ยังคงใช้วัฒนธรรมองค์กรแบบเดิมดังต่อไปนี้
- ความเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ และความเป็นผู้นำ
- ความเต็มใจในการให้และแบ่งปันข้อมูล
- การให้ความสำคัญแก่พนักงานและความรับผิดชอบ
- ความร่วมมือและสิ่งแวดล้อมในการทำงานร่วมกันเป็นทีม
- การเน้นย้ำในการสื่อสารแบบเปิดเผยและซื่อสัตย์ต่อกัน
- เปิดตัวเองกับความคิดริเริ่มและให้โอกาสกับความแนวความคิดใหม่ๆ
แต่อย่างไรก็ตามเราสามารถที่จะนำเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต มาใช้แต่เพียงอย่างเดียว หรือนำหลักการทั้งหกข้อนี้ มาใช้แต่เพียงอย่างเดียวในการดำเนินธุรกิจก็ได้ ทั้งนี้ผลลัพท์ของทั้งสองส่วนนี้ จะเสริมกันและกัน และจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเป็นทวีคูณ เมื่อนำมาใช้ร่วมกันวัฒนธรรมด้านอินเทอร์เน็ตนั้น สามารถส่งผลหลายประการให้กับองค์กร เหมือนกับการนำเอาโซลูชันด้านอินเทอร์เน็ต และโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบเครือข่ายมาใช้งาน ในอันที่จะช่วยให้องค์กร สามารถตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว และสร้างโอกาสทางธุรกิจ ตลอดจนการให้บริการลูกค้าที่ดีเลิศ รวมไปถึงการทำงานร่วมกันกับคู่ค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
กระบวนการในการสร้างระบบธุรกิจแบบอินเทอร์เน็ตนั้น อาจจะยุ่งยากและมีความซับซ้อนบ้าง แต่เมื่อเราได้ใช้เครื่องมือทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งสามารถช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการสื่อสาร และการทำงานร่วมกัน ดังนั้นองค์กรที่พยายามที่จะสร้างระบบการทำงานใหม่ที่ใช้อินเทอร์เน็ต อาจต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ อาทิเช่น ทัศนคติต่อการทำงานร่วมกันกับองค์กรภายนอก ที่อาจถูกมองเป็นอุปสรรค แทนที่จะเป็นโอกาสใหม่ในการทำงาน, ระบบการทำงานแบบขั้นที่ปิดกั้นความคิดริเริ่ม และแนวคิดใหม่ๆ ของพนักงานในองค์กร, ความล่าช้าของวัฒนธรรมองค์กร ที่เมื่อมีข้อผิดพลาดของโครงการ ก็เพียงแค่หาจุดผิดพลาด และกล่าวโทษต่อความผิดนั้น หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ พยายามเลี่ยงความเสี่ยง มากกว่าที่จะมองหาโอกาส, และการกำหนดหน้าที่ของพนักงาน ที่ถูกตีกรอบเอาไว้เฉพาะตามเอกสารการทำงานเท่านั้น ซึ่งตัวอย่างทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ถ้าไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมไว้ ก็อาจจะทำให้ไม่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างเต็มที่
ท่านผู้อ่านคงจะพอเห็นแล้วว่า วัฒนธรรมขององค์กรด้านอินเทอร์เน็ต มีความสำคัญเพียงไรในการที่จะได้ประโยชน์สูงสุด จากการใช้เทคโนโลยีด้านอินเทอร์เน็ต
เมื่อบริษัทหรือองค์กรของท่านได้พัฒนาวัฒนธรรมด้านอินเทอร์เน็ตแล้วนั้น กระบวนการต่างๆ ภายในองค์กรก็จะช่วยผลักดันการใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ต ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกๆ ด้านอาทิ
- ด้านบุคลากร - วัฒนธรรมด้านอินเทอร์เน็ตได้เปิดโอกาสให้พนักงานได้มีโอกาสในการตัดสินใจ และมีความรับผิดชอบมากยิ่งขึ้น โดยองค์กรต้องสนับสนุนให้พนักงานสามารถทำงาน และตัดสินใจได้โดยการให้ข้อมูลต่างๆ ที่พวกเขาต้องการ
- การเปิดกว้างในการสื่อสาร - วัฒนธรรมด้านอินเทอร์เน็ตนั้นมองว่า ข้อมูลข่าวสารจะมีค่าก็ต่อเมื่อพร้อมและ สามารถให้พนักงานทุกคนเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้
- มุ่งเน้นการเป็นผู้นำ - วัฒนธรรมด้านอินเทอร์เน็ตต้องการการเป็นผู้นำขององค์กร ซึ่งแตกต่างจากการมุ่งเน้นแต่การบริหารจัดการเท่านั้น ในยุคเศรษฐกิจแบบอินเทอร์เน็ต ที่มีความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราไม่สามารถใช้การบริหารจัดการ ในการดูแลธุรกิจ แต่ต้องใช้การเป็นผู้นำที่จะพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ
- ความคิดริเริ่มและพร้อมที่จะรับความเสี่ยง - วัฒนธรรมด้านอินเทอร์เน็ตมองว่า ความผิดพลาดนั้นเป็นโอกาสในการเรียนรู้ ในการแก้ปัญหา และวางรากฐานสู่ความสำเร็จในอนาคต มากกว่าที่จะพยายามหาข้อผิดพลาด และกล่าวโทษให้กับใคร
- การทำงานร่วมกันเป็นทีม - วัฒนธรรมด้านอินเทอร์เน็ตวางรากฐานในสภาวะ และสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่คล่องตัว และปรับตัวได้ง่าย เพื่อที่จะรับกับความเปลี่ยนแปลงของลูกค้า และตลาดได้อย่างรวดเร็ว
การสร้างวัฒนธรรมด้านอินเทอร์เน็ตนั้น เป็นกลยุทธ์ในระยะยาว หลักการที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือ กลยุทธ์ในการลงทุนด้านเทคโนโลยี ที่จะสามารถให้ผลตอบแทนอย่างรวดเร็ว และเป็นรากฐานในการพัฒนาต่อไป