เมื่อบริษัทใช้งานและพึ่งพาระบบเครือข่ายมากขึ้น ระบบที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลก็จะเป็นเครื่องมือในการดำเนินธุรกิจ ที่สำคัญมากยิ่งขึ้น
จากรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบเดิมๆในอดีตมาจนถึงการนำเอาเทคโนโลยีและระบบเครือข่ายมาใช้ ในช่วงหลายปี ที่ผ่านระบบเครือข่ายถูกใช้เพียงเพื่อรับมือกับเว็บเพจ อีเมล์ และงานโปรแกรมประยุกต์แบบ ไคล์ท/เซฟเวอร์ แต่ใน ปัจจุบันเราจะเริ่มเห็นระบบเครือข่ายข้อมูลที่มีการส่งผ่านเสียง การประชุมทางไกล (Video Conference) การอบรม และการถ่ายทอดเสียงทางอินเตอร์เน็ต แม้กระทั่งกิจกรรมทางธุรกิจ เช่น ระบบลูกค้าสัมพันธ์ และระบบซัพพลายเชน
จากการเติบโตของข้อมูลบนเว็บ และแอพพิเคชันใหม่ๆมากมาย เป็นสาเหตุหนึ่งของการติดขัดของข้อมูลและปัญหา คอขวดของระบบเครือข่าย และในเมื่อระบบเครือข่ายข้อมูลเป็นสิ่งที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจ ปัญหาเหล่านี้สามารถ ลดทอนประสิทธิผล ความพึงพอใจของลูกค้า และผลกำไรของบริษัทได้ โซลูชันทางเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยแก้ ปัญหาเหล่านี้ก็คือ “Content Networking” ถ้าจะอธิบายอย่างง่ายๆก็คือ การเพิ่มเลเยอร์ที่มีความอัจฉริยะเข้าไปในระบบ เครือข่ายเพื่อที่จะรับประกันว่า เนื้อหา หรือ Content ต่างๆที่ผู้ใช้เรียกมาจะต้องส่งมาอย่างรวดเร็ว และปรับตัวอย่าง อัตโนมัติตามความพร้อมของต้นแหล่งข้อมูลนั้นๆ
ในระบบขององค์กร โซลูชันด้าน Content Networking ให้ความสะดวกและสนับสนุนการทำงานของพนักงานตลอด จนลูกค้า และคู่ค้าทางธุรกิจ การเติบโตขององค์กรอย่างรวดเร็วและการที่พยายามจัดโครงสร้างองค์กรแบบ “Flat Organization” ดูเหมือนจะขัดแย้งกันพอควร ขณะที่ความต้องการด้านข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและรวดเร็วเป็นสิ่ง จำเป็นมากยิ่งขึ้น จากจดหมายข่าวที่เคยพิมพ์และแจกจ่ายกันเป็นรายเดือน กลายมาเป็นการดูวีดีโอผ่านระบบเครือข่าย เป็นเรื่องที่มีให้เห็นกันอย่างแพร่หลาย พนักงานที่มีอยู่ทั่วโลก ทั้งที่ทำงานในสำนักงานและทำงานจากที่บ้าน ตลอดจน ในที่สาธารณะทั่วไป การที่ผู้บริหาร ขององค์กรต้องเดินทางทั่วโลก เช่าศูนย์ประชุม หรือเช่าใช้เวลาในการถ่ายทอด ผ่านดาวเทียม ปัจจุบันได้ถูกทดแทน ด้วย Content Networking บริษัทหรือองค์กรสามารถส่งผ่านข่าวสารข้อมูลตรง ไปยังคอมพิวเตอร์ของพนักงานแต่ละ คนผ่านทางระบบ Steaming Video ยกตัวอย่างเช่น การประชุมของพนักงาน จากที่ต่างๆทั่วโลกในรูปแบบที่สามารถ โต้ตอบกันได้แบบปฏิสัมพันธ์
ทางด้านการฝึกอบรมให้กับพนักงานก็ยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้น แต่ข้อจำกัดด้านงบประมาณในเรื่องการเดินทาง และ ค่าฝึกอบรมที่มีจำกัดในเศรษฐกิจยุคนี้ ลองคำนวณค่าใช้จ่ายในรอบปีขององค์กรท่านว่า ค่าใช้จ่ายในเรื่องการเดินทาง ค่าโดยสารเครื่องบิน และอื่นๆนั้นมากมายเพียงไร หากแต่เทคโนโลยี Content Networking สามารถช่วยองค์กรท่าน แปลงการฝึกอบรม และโครงการการพัฒนาความสามารถต่างๆของพนักงาน ให้เป็นไปในแบบออนไลน์ ซึ่ง พนักงานสามารถโต้ตอบได้อย่างมีปฏิสัมพันธ์ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้องค์กรท่านลดค่าใช้จ่ายต่างในการ เดินทางและ ค่าโรงแรมที่พักได้อย่างมากมาย
การเพิ่มวิถีทางในการดำเนินธุรกิจแบบออนไลน์บนเว็บในด้านต่างๆเช่น ฝ่ายการเงิน ฝ่ายจัดซื้อ การจัดทำรายงานค่า ใช้จ่าย ตลอดจนฝ่ายทรัพยากรบุคคล ขององค์กร มิใช่เพียงแค่ให้ความสะดวกสบายขึ้นเท่านั้น แต่กลับเป็นสิ่งจำเป็น ในเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตของพนักงานอีกด้วย ยิ่งมีแอพพิเคชันมากขึ้นเท่าไร ความต้องการด้าน การส่งผ่านข้อมูลก็จะมากขึ้นเท่านั้น และโซลูชันด้าน Content Networking จะเข้ามาช่วยและสนับสนุนการทำงานใน การส่งข้อมูลไม่ว่าจะมาจากภายนอกหรือสื่อสารกันภายในเครือข่ายขององค์กร
ในปัจจุบันได้มี สี่ เทคโนโลยีหลักทางด้าน Content Networking ที่ทำงานร่วมกันเพื่อสนับสนุนและให้ความมั่นใจว่า เว็บแอพพิเคชัน ต่างๆและข้อมูลต่างๆที่กระจายอยู่ทั่วโลก ซึ่งเทคโนโลยีหลักเหล่านี้ได้แก่
- Content routing : สำหรับส่งการร้องขอข้อมูลจากเว็บไปยังจุดที่ดีและใกล้ที่สุดในเครือข่าย
- Content switching : สำหรับส่งการร้องขอข้อมูลไปยัง เซิร์ฟเวอร์ ที่ดีที่สุดภายในจุดที่ใกล้ที่สุดในเครือข่าย
- Content-edge delivery : ตอบรับการร้องขอจากส่วนรอบๆของเครือข่ายแทนที่จะต้องไปสู่เซิร์ฟเวอร์ จาก ส่วนกลางซึ่งจะช่วยให้การสนองตอบรวดเร็ว และประหยัดแบนด์วิธมากขึ้น
- Content distribution and management : สนับสนุนการทำงานให้มั่นใจว่าข้อมูลต่างๆจากเซิร์ฟเวอร์กลาง ได้มีการส่งต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ต่างๆที่กระจายอยู่ และรับประกันในความทันสมัยของข้อมูลในอุปกรณ์
โดยเฉลี่ยแล้วการใช้อุปกรณ์ Content-edge ภายใต้โซลูชัน Content Networking สามารถช่วยลดความหนาแน่นของ แบนด์วิธได้ตั้งแต่ 25 ถึง 60 เปอร์เซนท์เลยทีเดียว และจะส่งผลให้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านไอทีได้อีกทางหนึ่งด้วย
ระบบเครือข่ายขององค์กรได้มีบทบาทมากขึ้นในปัจจุบันและมีการคาดว่าจะมากขึ้นเป็นเท่าตัวในอนาคต ผู้บริหาร ส่วนใหญ่ได้ให้วาทะแก่พนักงานให้ทำงานในวิถีทางที่ดีกว่าเดิม เราก็สามารถทำให้ระบบเครือข่ายทำงานในวิถีทาง ใหม่ที่ดีกว่าเดิมได้เช่นกัน มิใช่แค่การเพิ่มแบนด์วิธให้กับระบบ การเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้อย่างรวดเร็ว และระบบเครือ ข่ายที่ฉลาดมากขึ้นเป็นสิ่งที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน
เมื่อบริษัทหรือองค์กรเริ่มมองหาจุดที่จะนำเทคโนโลยี Content Networking มาใช้ ก็ควรเริ่มจากการใช้งานภายใน องค์กรก่อน อาทิ ริเริ่มการใช้ระบบ Video Conferencing เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง การใช้เซิร์ฟเวอร์ตาม จุดกระจายในสถานที่ต่างๆเพื่อเก็บแอพพิเคชันให้ใกล้กับผู้ใช้ในทุกหนแห่ง การนำเว็บมาใช้ในงานด้านพัฒนา ทรัพยากรบุคคล ด้านการเงิน และอื่นๆ ส่วนประกอบต่างๆของเทคโนโลยี Content Networking ดังที่ได้กล่าวมา จะทำงานร่วมกันเพื่อที่จะทำให้ระบบเครือ ข่ายมีความฉลาดมากขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเอื้อประโยชน์ ให้กับ องค์กรมากยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้สามารถส่งผล ทางด้านบวกให้กับองค์กรในด้านการเพิ่มผลผลิต ของพนักงาน ลดค่าใช้จ่าย ต่างๆด้านการเดินทางและการฝึกอบรม ตลอดจนความสัมพันธ์อันดี กับลูกค้า และคู่ค้าทางธุรกิจ และท้ายที่สุดจะส่ง ผลถึงผลกำไรของบริษัทในภาพรวม