รถด่วนสายใหม่ วิ่งไปถึงหน้าบ้าน

Krungthep Turakij

Cisco Express

เอกรัตน์ สาธุธรรม

ใครๆ ก็บอกว่า โลกนี้จะไม่กลมอีกต่อไป เพราะมีสารพัดเรื่องราวที่ทำโลกกลมๆ กลายเป็นโลกแบนได้ชั่วพริบตา และ 'อินเทอร์เน็ต' คือ ผู้ทรงอิทธิพลคนนั้น

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : แม้ทั่วโลกจะมีการขยายตัวของคนใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี หากแต่บางพื้นที่ บางประเทศ อินเทอร์เน็ตก็ดูเหมือนเป็นเรื่องที่ไกลเกินเอื้อมถึง

ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเทคโนโลยี (Digital Divide) จึงยังคงเป็น 'วาระของโลก' ที่มีความพยายามช่วยกันอุดช่องว่างในที่ที่ไอทีทะลุทะลวงเข้าไปไม่ได้

แต่หากมี 'รถ' ที่บรรทุกระบบไอทีไว้เต็มคัน วิ่งไปยังจังหวัดต่างๆ เดินสายสร้างประสบการณ์ด้านไอทีให้ผู้คนยังดินแดนห่างไกล ก็คงจะดีไม่น้อย

'ซิสโก้' เป็นหนึ่งในหลายๆ บริษัทระดับโลกด้านไอที ที่บังเอิญมีแผนงาน 'ตรง' กับสิ่งที่คาดหวัง นั่นคือ 'รถด่วนสายไอที' คันแรกที่ซิสโก้นำเข้ามาเปิดตัวในไทยเมื่อไม่นานมานี้ โดยจุดมุ่งหมายไม่ได้มีเพียงแค่การวิ่งเข้าไปยังพื้นที่ ที่ไร้ไอทีเท่านั้น แต่ยังจะวิ่งไปยังพื้นที่ที่มักเกิดภัยพิบัติด้วย

คริสเตียน เฮนท์เชลล์ ผู้อำนวยการตลาดคอมเมอร์เชียลและช่องทางจัดจำหน่าย ภูมิภาคเอเชีย บริษัทซิสโก้ ซิสเต็มส์ เล่าว่า 'Cisco Express-Network on Wheels (NoW)' หรือรถด่วนสายเทคโนโลยีนี้ มีต้นกำเนิดครั้งแรกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา

ครั้งนั้นซิสโก้ต้องการเข้าไปสร้างเครือข่ายการรับรู้ด้านไอทีให้กลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียล หรือธุรกิจขนาดกลางถึงขนาดเล็กในพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ในศูนย์กลางธุรกิจ โดยทำขนาดเท่ารถโรงเรียน วิ่งให้บริการไปทั่วและได้รับการตอบรับที่ดี

"ซิสโก้ประสบความสำเร็จในการพัฒนารถดังกล่าว ภายใต้จุดมุ่งหมายขยายการบริการไปยังภาคธุรกิจ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีให้ได้รู้จักกับเทคโนโลยีของซิสโก้ ขณะนี้เรามีรถด่วนเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกาประมาณ 11 คัน"

จากนั้น รถด่วนสายไอทีคันนี้ก็ค่อยๆ วิ่งออกจากแดนอินทรีไปสู่ประเทศอื่นๆ เช่น อังกฤษ อินเดีย เกาหลี และจีน ด้วยแนวคิดที่นอกเหนือไปจากครั้งแรก

"จุดมุ่งหมายสำคัญ นอกจากขยายการรับรู้ด้านเทคโนโลยีเครือข่ายการสื่อสารข้อมูลใหม่ๆ ให้บริษัทเอสเอ็มอีนำไปประยุกต์ใช้แล้ว ยังเป็นการนำไอทีไปสู่พื้นที่อื่นๆ ที่ไม่ใช่ในเมือง ช่วยอุดช่องว่างการเข้าถึงไอที ขณะเดียวกันในเอเชียมักจะมีเรื่องของภัยพิบัติเกิดขึ้น ทั้งน้ำท่วม แผ่นดินไหว รถคันนี้สามารถช่วยทำให้สถานการณ์ โดยเฉพาะเรื่องการติดต่อสื่อสารดีขึ้น"

ราคาของรถด่วนสายนี้ รวมการติดตั้งซอฟต์แวร์ โซลูชั่นต่างๆ ภายในรถ ตกราวๆ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 35 ล้านบาท

รถขนาดใหญ่ภายในตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต จัดทำขึ้นเป็นพิเศษ ประกอบไปด้วย ระบบสื่อสารแบบครบวงจร ระบบรักษาความปลอดภัย ระบบไร้สาย ระบบเครือข่าย โซลูชั่นดาต้าเซ็นเตอร์ โซลูชั่น CCRE (Cisco Connected Real Estate) ระบบสื่อสารแบบติดตั้งรวดเร็ว ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์สำหรับระบบวิดีโอวงจรปิดบนเครือข่าย และ Cisco Digital Media System โซลูชั่นครบวงจรสำหรับการจัดการและการเผยแพร่สื่อดิจิทัลผ่านทางจอแสดงผลขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อบนเครือข่าย

มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม และอินเทอร์เน็ตไร้สาย รวมทั้งระบบสื่อสารที่รวดเร็วภายในตู้คอนเทนเนอร์ ที่สามารถรองรับบริการสื่อสารในพื้นที่ต่างๆ ได้ เช่น การอำนวยความสะดวกด้านการสื่อสารแก่เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย กรณีเกิดภัยธรรมชาติในพื้นที่ใกล้เคียง หรือใช้เป็นเครื่องมือเชื่อมโลกการศึกษาผ่านอินเทอร์เน็ตแก่ชุมชนในที่ห่างไกล

ยกตัวอย่าง โซลูชั่นที่น่าสนใจ เช่น 'Cisco Mobility Solutions' ที่ช่วยเรื่องการสื่อสารแบบเคลื่อนที่ สามารถทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ โดยใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น แอพพลิเคชั่น เสียง วิดีโอ ระบบข้อความ Instant Messaging หรืออีเมล บริการด้านเสียง รวมถึงบริการไร้สายอื่นๆ สามารถตรวจสอบติดตามทรัพย์สินต่างๆ แบบเรียลไทม์ และปรับเปลี่ยนทั้งเมืองให้กลายเป็นฮอตสปอต เพื่อให้ประชาชนสามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา

ขณะที่ ระบบ Cisco iComm หรือระบบสื่อสารแบบติดตั้งรวดเร็ว เป็นอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักไม่ถึง 200 ปอนด์ ใช้พลังงานไม่เกิน 600 วัตต์ ติดตั้งไม่ถึง 10 นาทีก็ใช้งานได้ ระบบจะสามารถรองรับโทรศัพท์ไอพี โทรศัพท์แบบอนาล็อก โทรสาร วอยซ์เมล และวิทยุ

ระบบนี้ ยังเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายแบบใช้สาย เครือข่ายไร้สาย หรือดาวเทียม เพื่อขยายขอบเขตของโครงสร้างพื้นฐานไปยังพื้นที่เป้าหมาย เป็นโซลูชั่นที่เหมาะกับกรณีเกิดภัยพิบัติ โดยสามารถใช้ทดแทนระบบสื่อสารพื้นฐานที่ได้รับความเสียหาย

'คริสเตียน' บอกว่า รถด่วนเทคโนโลยีจะเริ่มออกเดินทางจากสิงคโปร์ไปสู่ 30 เมืองใหญ่ใน 6 ประเทศ ได้แก่ประเทศไทย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย และไต้หวัน โดยในไทยรถดังกล่าวจะอยู่ 6 สัปดาห์ ซึ่งจะไปสิ้นสุด ณ วันที่ 21 ธันวาคมนี้ โดยตั้งต้นจากกรุงเทพฯ แล้วไปต่อที่ หาดใหญ่ ภูเก็ต ชลบุรี และขอนแก่น โดยคาดว่าจะสามารถเข้าถึงธุรกิจได้มากกว่า 7,000 ธุรกิจ

รวมทั้งมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่รถด่วนสายนี้จะวิ่งไปถึงด้วย เช่น สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต และมหาวิทยาลัยขอนแก่น

"กุมภาพันธ์ปีหน้า เราจะเปิดตัวรถคันที่สอง และจะนำกลับมาเมืองไทยอีกครั้ง ครั้งนี้จะเน้นไปที่จังหวัดเล็กๆ ที่ไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี"

ดร.ธัชพล โปษยานนท์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย ของซิสโก้ บอกว่า ในอนาคต อาจมีความร่วมมือกับองค์กรของภาครัฐ โดยเฉพาะด้านนิติวิทยาศาสตร์ ที่ต้องใช้เครื่องมืออันทันสมัยในการส่งผลแล็บ หรือส่งผลตรวจดีเอ็นเอเข้ามายังกรุงเทพฯ หรือในกรณีประสบภัยน้ำท่วม รถคันนี้ก็สามารถให้บริการการติดต่อสื่อสารที่ขาดหายไปได้

"โซลูชั่นที่ติดตั้งอยู่ภายในรถ สามารถใช้งานได้จริงทุกโซลูชั่น ช่วงแรกเราต้องการทำให้คนเชื่อว่า รถคันนี้สามารถใช้งานเทคโนโลยีแบบเคลื่อนที่ได้ โดยให้กลุ่มธุรกิจในพื้นที่ต่างๆ ได้ทดลองใช้เทคโนโลยีเป็นเป้าหมายแรกก่อน ส่วนในอนาคตก็มีความเป็นไปได้ ที่อาจเป็นสปอนเซอร์ร่วมกันในไทย เพื่อนำรถด่วนคันนี้มาใช้ประจำในบ้านเรา"

ถมช่องว่างทางดิจิทัล

ความเคลื่อนไหวเรื่องการลดช่องว่างทางดิจิทัล (Digital Divide) ถือว่ายังเป็นสิ่งที่ทั่วโลกให้ความสนใจ โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยก่อนช่วงกลางปี 2550 ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้ขึ้นกล่าวบนเวทีการประชุมระดับรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือเอเชีย (เอซีดี) ที่กรุงโซล เกาหลีใต้ โดยขอให้เกาหลีใต้ช่วยวางรากฐานเพื่อลดช่องว่างทางดิจิทัลในหมู่สมาชิกเอซีดี 30 ประเทศ

ฮัน ดัคซู นายกรัฐมนตรีของแดนโสมขาว ซึ่งเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และ 70 เปอร์เซ็นต์ของครัวเรือนมีอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ ให้การตอบรับ โดยบอกว่า รัฐบาลกรุงโซลจะจัดโครงการให้การศึกษาแก่ผู้เชี่ยวชาญไอที หรือส่งอาสาสมัครอินเทอร์เน็ตรุ่นเยาว์ไปยังประเทศต่างๆ

'ฮัน' บอกว่า ช่องว่างทางดิจิทัลต้องไม่นำไปสู่รอยร้าวในโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศสมาชิก พร้อมบอกด้วยว่า ช่องว่างด้านข่าวสารระหว่างกลุ่มที่มีความก้าวหน้าด้านนี้ และกลุ่มที่ล้าหลัง มีความชัดเจนมากขึ้นในยุคของการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ทันใจ และยุคที่เทคโนโลยีสื่อสารก้าวหน้า

พร้อมทั้งบอกว่า เอซีดีควรเป็นเวทีระดับภูมิภาคที่จัดทำยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจร่วมกัน เพื่อรักษาศักยภาพในการแข่งขันของเอเชีย

ขณะที่ โนห์ จุน ยอง รัฐมนตรีสารสนเทศและการสื่อสารของเกาหลีใต้ บอกว่า เกาหลีใต้จะพยายามสนับสนุนประเทศต่างๆ ไม่เพียงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่ายที่ก้าวหน้า แต่ยังรวมถึงการให้บริการภาครัฐแบบ E-Government

แถลงการณ์ของเอซีดีที่ออกมาหลังเสร็จสิ้นการประชุม ระบุว่าสมาชิกเอซีดี 30 ชาติ เห็นพ้องที่จะพยายามลดช่องว่างด้านไอทีระหว่างชาติร่ำรวยกับยากจน ผ่านการแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญ และการจัดทำโครงการวิจัยร่วมกัน