ซิสโก้ดันโซลูชั่นUC7.0รับปีใหม่

Thairath

นายมงคล อัศวโกวิทกรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีขั้นสูง บริษัทซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปี 2552 นี้ภาวะเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้องค์กรธุรกิจทั้งหลายต้องทบทวนการลงทุน และ การดำเนินธุรกิจมากขึ้น จึงจำเป็นต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบและให้คุ้มทุนมากยิ่งขึ้นในทุกๆ เรื่องโดยเทคโนโลยีคอลาบอเรชั่นจะเป็นเครื่องมือสำคัญ ที่เข้ามาตอบโจทย์ให้องค์กรธุรกิจ ช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการตัดสินใจบนพื้นฐานข้อมูลทางธุรกิจที่ถูกต้อง และเป็นเรียลไทม์ พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการประสานงานร่วมกัน และปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจ นำไปสู่การสร้างธุรกิจรูปแบบใหม่ เพิ่มช่องทางสร้างรายได้ให้กับองค์กร

ผอ.ฝ่ายเทคโนโลยีขั้นสูง บ.ซิสโก้ฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้เทคโนโลยีคอลาบอเรชั่น ยังช่วยปรับปรุงการสื่อสารภายในองค์กร รวมถึงการสื่อสารกับลูกค้าและคู่ค้าด้วย โดยความสามารถในการประสานความร่วมมือกันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนี้ ถือเป็นข้อได้เปรียบของซิสโก้ฯ ในการแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด โดยแนวทางเรื่องการคอลาบอเรชั่นของซิสโก้นี้ เป็นการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายองค์กรที่มีอยู่ เพื่อให้ทีมงานสามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างราบรื่น และรองรับการทำงานร่วมกันภายในบริบทของระบบงานธุรกิจ แม้แต่ซิสโก้เองก็ยังนำระบบนี้มาใช้ในการทำงานกับสำนักงานสาขาของบ.ซิสโก้ฯ ใน 144 แห่งทั่วโลก

นายมงคล กล่าวอีกว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์การสื่อสารแบบครบวงจรของซิสโก้ ออกแบบมาเป็นพิเศษบนสถาปัตยกรรมแบบเปิด จึงรวมกับแอพลิเคชันทางธุรกิจ และโครงสร้างพื้นฐานทางไอทีที่มีอยู่ เช่น ระบบบริหารงานลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ระบบคอนแท็ค เซ็นเตอร์ ระบบวางแผนทรัพยากรภายในองค์กร เป็นต้น อีกทั้งยังรองรับการทำงานร่วมกับอุปกรณ์หลากหลายประเภท ทั้งพีซีที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์และแมคอินทอช รวมถึงมือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการซิมเบียน แบล็คเบอรรี่ และวินโดว์ โมบายล์ รวมถึงเว็บเซอร์วิสอื่นๆ ด้วย และยังช่วยให้ฝ่ายไอทีปฏิบัติตามนโยบาย กฎระเบียบด้านความปลอดภัย และมาตรฐานต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม

ผอ.ฝ่ายเทคโนโลยีขั้นสูง บ.ซิสโก้ฯ กล่าวถึงโซลูชั่นยูนิฟายด์ คอมมูนิเคชั่น 7.0 เวอร์ชันล่าสุด (UC7.0) ว่า จะเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานมากขึ้น ขณะที่ช่วยสร้างหนทางใหม่ในการทำงานร่วมกันระหว่างเพื่อนร่วมงาน คู่ค้า ผู้ค้า และลูกค้า อีกทั้งยังใช้งานง่ายขึ้นทั้งในส่วนของผู้ใช้ปลายทาง ผู้บริหารระบบ ผู้ดูแลระบบรักษาความปลอดภัย ฝ่ายเทคนิค และยังปรับปรุงมาตรฐานแบบเปิด ให้ทำงานข้ามแพลตฟอร์มได้ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีเว็บ 2.0 เหมาะกับองค์กรที่เป็นสถาบันการเงิน โรงงานอุตสาหกรรม เฮลธ์แคร์ และสถาบันการศึกษา รวมถึงลดต้นทุนการลงทุนรวมทั้งระบบมากขึ้นด้วย ทั้งนี้เฉพาะบริษัทซิสโก้ฯ สามาถประหยัดเงินจากที่ไม่ต้องเดินทางไปต่างประเทศตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเป็นเงินกว่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐ

นายมงคล กล่าวด้วยว่า การทำงานร่วมกันเป็นพัฒนาการขั้นถัดไปของอินเทอร์เน็ต นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะก่อให้เกิดโอกาสทางธุรกิจที่มีมูลค่าสูงถึง 34,000 ล้านดอลลาร์ โดยองค์ประกอบหลักของพัฒนาการดังกล่าว คือ เครือข่ายสำหรับแพลตฟอร์ม โดยเครือข่ายของซิสโก้ใช้โปรโตคอลมาตรฐานแบบเปิด จึงนำเสนอบริการสำหรับการทำงานร่วมกันของอุปกรณ์ และแอพลิเคชันที่หลากหลาย และสร้างประสบการณ์ในการทำงานร่วมกันได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่ระบบรับส่งข้อความ จนถึงการประชุมผ่านระบบประชุมทางไกลแบบเสมือน ดังเช่นตัวอย่างการใช้งานจริงใน ประเทศไทย อาทิ บริการ “ไอแคร์” ของโรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาลวัฒโนสถ ในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ